รับมือความไม่แน่นอนทางการเงิน: เคล็ดลับรักษาความสงบและบริหารการเงินอย่างมั่นคง

สร้างกองทุนฉุกเฉินก่อนทุกอย่าง

เมื่อเศรษฐกิจไม่แน่นอน สิ่งแรกที่ควรทำคือกันเงินสำรองฉุกเฉินไว้ในบัญชีที่เข้าถึงง่าย เช่น บัญชีฝากออมทรัพย์หรือกองทุนตลาดเงิน เป้าหมายเบื้องต้นควรเป็นค่าใช้จ่าย 3–6 เดือนของครัวเรือน แล้วค่อยขยับให้ถึง 6–12 เดือนเมื่อมีภาระมากขึ้น

การมีเงินสำรองช่วยให้ใจสงบเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น ว่างงานหรือค่ารักษาพยาบาล ทำให้ไม่ต้องขายทรัพย์สินในราคาตกหรือกู้ดอกเบี้ยสูง เริ่มจากกําหนดยอดออมรายเดือนและตั้งระบบหักอัตโนมัติ สะสมทีละน้อยก็เห็นผล

ออมเงินอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างนิสัย

นิสัยออมเงินสำคัญกว่าจำนวนเงิน เรียนรู้แบ่งรายได้ตามสัดส่วน เช่น ออม 20% ใช้ 60% ลงทุน 10% บริจาค 10% ปรับตามสภาพรายได้จริงในไทย เช่น รายได้พนักงานประจำกับฟรีแลนซ์มีความไม่แน่นอนต่างกัน

ใช้เครื่องมือที่หาได้ในประเทศ เช่น บัญชีฝากประจำ กองทุนรวมออมทรัพย์ หรือแอปการเงินที่เชื่อถือได้ ตั้งเป้าระยะสั้นและระยะยาว แล้วตรวจทบทวนทุกสามถึงหกเดือน เมื่อเห็นตัวเลขจะช่วยให้คุณใจเย็นและควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น

เลือกลงทุนปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยง

ในช่วงที่ตลาดผันผวน ควรเน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี ในประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้เลือกหลายแบบและมีสภาพคล่องที่เหมาะสม

การกระจายการลงทุนเป็นหัวใจสำคัญ อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียว กระจายระหว่างเงินสด พันธบัตร และหุ้นสัดส่วนที่พอดีกับความเสี่ยงที่รับได้ ถ้ารู้สึกสับสน ปรึกษาที่ปรึกษาการเงินที่ขึ้นทะเบียนหรือใช้กองทุนแบบมีผู้จัดการมืออาชีพ

ดูแลจิตใจและวางแผนระยะยาว

ความสงบใจมาจากการมีแผนชัดเจน เขียนสถานะการเงิน ปรับงบประมาณ และตั้งเป้าทางการเงินที่เป็นจริง พูดคุยกับครอบครัวเพื่อให้ทุกคนอยู่ในแนวทางเดียวกัน ลดความกังวลลงได้มากเมื่อเห็นภาพรวม

ฝึกเทคนิคคลายความเครียดง่ายๆ เช่น หายใจลึก ออกกำลังกายเล็กน้อย หรือพักผ่อนเพียงพอ การมีวินัยทางการเงินควบคู่กับการดูแลตัวเองจะช่วยให้คุณยืนหยัดได้ในระยะยาว เริ่มลงมือวันนี้ด้วยก้าวเล็กๆ และติดตามผลเป็นประจำ